Don't Copy From This Blog...
El Mariachi (1992) เลือดล้างเลือด
แนวหนัง แอ๊คชั่น ยิงกันทั้งเรื่อง ถ้า พูดกันถึงผู้กำกับที่ทำหนังไตรภาคไว้หลายชุดนี่ เห็นทีจะต้องมีชื่อพี่ Robert Rodriguez เข้าไปร่วมด้วยอย่างแน่นอนครับ เพราะพี่ท่านทำไตรภาคไว้สามอันแน่ะ อันแรกก็เรื่องนี้ครับ อีกอันก็ From Dusk Till Dawn (ภาคแรกแกกำกับ ส่วนภาคอื่นปล่อยให้คนอื่นทำไป) และสุดท้ายก็ Spy Kids ซึ่งแต่ละอันก็มีความสนุกและความแปลกแตกต่างกันไปครั บ แต่วันนี้ขอพูดถึงเรื่องนี้ก่อนแล้วกัน นี่ก็ถือเป็นตอนแรก ของตำนานนักฆ่ากีตาร์ปืน เอล มาริอาชี่ (Carlos Gallardo) นะครับ กับการต่อกรกับวายร้ายที่ครองเมืองอยู่ หนังก็เป็นแนวไอ้เดี่ยวท้าลุยน่ะครับ ไล่ต่อสู้ไปเรื่อยๆ เอามันส์อย่างเดียว สไตล์ภาพมันเป็นหนังทุนต่ำน่ะครับ แค่ 7,000 เหรียญเอง ได้ขนาดนี้ก็นับว่าใช้ได้ทีเดียวครับ แต่มาเสียที่ตอนจบซึ่งมันง่ายจนเกินไป อะไรกันเนี่ย ลุยมาตั้งนาน จบง่ายแบบนี้ เซ็งนะเนี่ย แล้วนี่ก็แทบจะเป็นสไตล์ของพี่ Robert แกไปเลยครับ เพราะหนังกี่เรื่องของแก ชอบทำตอนจบง่ายเกินเหตุเป็นประจำ แรกเริ่มเดิมทีหนังจะทำ แล้วส่งตรงลง VDO เลยนะครับ และพี่ Robert เองก็บอกว่าเขาทำเรื่องนี้ออกมาเป็นการฝึกปรือฝีมือต นเองน่ะ แต่พอทำออกมาเข้าท่าเขาก็เลยขยับมาจอใหญ่กัน ซึ่งถ้าถามว่ามันส์มั้ย ก็คงต้องตอบ ... คือว่า ผมเฉยๆ นะครับ หนังมันดูได้เรื่อยๆ ไม่ถึงกับรู้สึกว่ามันส์มากมายอะไร มียิงกันเยอะก็จริง และกล้องก็น่าสนใจ แต่อารมณ์มันก็ยังกั๊กๆ ครับ ไม่ถึงกับเต็มที่หรือมันส์เต็มสูบ แล้วยังมาเจอตอนจบแบบที่ง่ายๆ นั่นอีก มันเลยออกจะสะดุดทางอารมณ์ไม่น้อย
แนวหนัง แอ๊คชั่น ยิงกันทั้งเรื่อง ถ้า พูดกันถึงผู้กำกับที่ทำหนังไตรภาคไว้หลายชุดนี่ เห็นทีจะต้องมีชื่อพี่ Robert Rodriguez เข้าไปร่วมด้วยอย่างแน่นอนครับ เพราะพี่ท่านทำไตรภาคไว้สามอันแน่ะ อันแรกก็เรื่องนี้ครับ อีกอันก็ From Dusk Till Dawn (ภาคแรกแกกำกับ ส่วนภาคอื่นปล่อยให้คนอื่นทำไป) และสุดท้ายก็ Spy Kids ซึ่งแต่ละอันก็มีความสนุกและความแปลกแตกต่างกันไปครั บ แต่วันนี้ขอพูดถึงเรื่องนี้ก่อนแล้วกัน นี่ก็ถือเป็นตอนแรก ของตำนานนักฆ่ากีตาร์ปืน เอล มาริอาชี่ (Carlos Gallardo) นะครับ กับการต่อกรกับวายร้ายที่ครองเมืองอยู่ หนังก็เป็นแนวไอ้เดี่ยวท้าลุยน่ะครับ ไล่ต่อสู้ไปเรื่อยๆ เอามันส์อย่างเดียว สไตล์ภาพมันเป็นหนังทุนต่ำน่ะครับ แค่ 7,000 เหรียญเอง ได้ขนาดนี้ก็นับว่าใช้ได้ทีเดียวครับ แต่มาเสียที่ตอนจบซึ่งมันง่ายจนเกินไป อะไรกันเนี่ย ลุยมาตั้งนาน จบง่ายแบบนี้ เซ็งนะเนี่ย แล้วนี่ก็แทบจะเป็นสไตล์ของพี่ Robert แกไปเลยครับ เพราะหนังกี่เรื่องของแก ชอบทำตอนจบง่ายเกินเหตุเป็นประจำ แรกเริ่มเดิมทีหนังจะทำ แล้วส่งตรงลง VDO เลยนะครับ และพี่ Robert เองก็บอกว่าเขาทำเรื่องนี้ออกมาเป็นการฝึกปรือฝีมือต นเองน่ะ แต่พอทำออกมาเข้าท่าเขาก็เลยขยับมาจอใหญ่กัน ซึ่งถ้าถามว่ามันส์มั้ย ก็คงต้องตอบ ... คือว่า ผมเฉยๆ นะครับ หนังมันดูได้เรื่อยๆ ไม่ถึงกับรู้สึกว่ามันส์มากมายอะไร มียิงกันเยอะก็จริง และกล้องก็น่าสนใจ แต่อารมณ์มันก็ยังกั๊กๆ ครับ ไม่ถึงกับเต็มที่หรือมันส์เต็มสูบ แล้วยังมาเจอตอนจบแบบที่ง่ายๆ นั่นอีก มันเลยออกจะสะดุดทางอารมณ์ไม่น้อย
0 comments:
Post a Comment