Wednesday, March 20, 2013

Opapatika (2007) โอปปาติก เกิดอมตะ

Don't Copy From This Blog...

Protected by Copyscape Plagiarism Detection

Opapatika (2007) โอปปาติก เกิดอมตะ

เรื่องย่อ
โอปปาติก เกิดอมตะ (2007) Opapatika โอปปาติก (โอ-ปะ-ปา-ติ-กะ) เล่าถึงเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งบนโลก ที่ใช้ชีวิตปะปนอยู่กับผู้คนทั่วไป แต่ละคนที่เป็นโอปปาติกนั้น จะได้รับพลังพิเศษบางอย่างที่ทำให้มีความสามารถเก่งกาจเหนือคนอื่น ๆ หากแต่พลังพิเศษนั้นก็มีขีดจำกัดในการใช้ และจะค่อย ๆ หมดไป เมื่อสิ้นอายุขัยในที่สุด ศดก (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) โอปปาติกตนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่กับความเชื่อของตนเอง ว่าจะสามารถเอาชนะความตายได้ด้วยการเป็นอมตะ แต่อุปสรรคอย่างเดียวที่คอยขัดขวางไม่ให้ความต้องการของศดกเป็นจริงก็คือ จิรัสย์ (สมชาย เข็มกลัด) โอปปาติกอีกตนที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างลึกลับ และดูอันตรายเกินไปที่ศดกจะวางใจให้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ ทางเดียวที่ศดกจะสามารถเป็นอมตะได้ก็คือ ต้องกำจัดจิรัสย์ออกไป ...ศดกจึงวางแผนการโดยให้ลูกน้องสุดจงรักภักดีนาม ธุวชิต (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ออกตามหา เตชิต (ลีโอ พุฒ) นักสืบเอกชนคนหนึ่งที่ยังไม่รู้ว่าตนเองนั้นมีพลังพิเศษของโอปปาติกแอบซ่อนอยู่ ...ศดกได้ล่อหลอกให้เตชิตกลายเป็นโอปปาติกด้วยการฆ่าตัวตาย และได้ว่าจ้างให้เตชิตใช้พลังพิเศษของเขาออกตามหาโอปปาติกตนอื่น ๆ เพื่อร่วมมือกันหาทางกำจัดตัวอันตรายอย่างจิรัสย์ที่ตอนนี้กำลังตามล่าหญิงสาวลึกลับนางหนึ่งอยู่ ...เตชิตตกลงช่วยเหลือศดก และได้รู้จักกับ ปราณ (เข็มอัปสร สิริสุขะ) สาวลึกลับคนที่จิรัสย์ต้องการจะฆ่า และหลงรักปราณทันทีที่ได้เจอหน้ากันครั้งแรก ซึ่งตัวปราณนี่เองที่เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้โอปปาติกตนอื่น ๆ มารวมกันได้ ...ไปศล (ชาคริต แย้มนาม) โอปปาติกนักฆ่าที่ไม่เคยผูกพันยึดติดกับใคร นอกจากอดีตของตัวเอง และด้วยความรู้สึกผูกพันบางอย่างของไปศลที่มีต่อปราณ ทำให้เขาแอบตามดูแลปราณอยู่ห่าง ๆ อรุษ (เร แม็คโดแนลด์) กับ รามิล (อธิป นานา) สองโอปปาติกเพื่อนแท้ชนิดตายแทนกันได้ เมื่อใดที่อยู่รวมกันจะแข็งแกร่ง แต่ถ้าแยกกันจะอ่อนแอ เพราะต่างคนต่างก็มีพลังที่จะช่วยอุดจุดอ่อนของกันและกันได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เข้าถึงตัวได้ยาก เพราะไม่เคยไว้ใจใคร จนกระทั่งทั้งคู่ได้มาสานสัมพันธ์กับปราณ ...แม้ดูเหมือนว่า เหล่าโอปปาติกทั้งหมดจะถูกดึงดูดมารวมกันโดยมีปราณเป็นจุดเชื่อมโยง แต่เรื่องราวก็ไม่ได้ง่ายไปเสียทั้งหมด เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีแง่มุมที่ไม่ลงรอยกันอยู่ ประกอบกับเรื่องราวที่ดูคลุมเครือระหว่างศดกกับจิรัสย์ นั่นได้นำไปสู่การปะทะกันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และนำมาซึ่งความสูญเสีย พร้อม ๆ กับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งของชีวิต โอปปาติกะเป็นคนบาลี ในพุทธศาสตร์หมายถึงสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาแล้วโตเต็มที่ทันทีทันใด ไม่ต้องผ่านการวิวัฒนาการเหมือนสัตว์ทั่วไป เรียกรวมพวกเทวดา พรหม สัตว์นรก เปรต อสุรกาย โดยมีอำนาจของกรรมเป็นตัวสนับสนุน ด้วยความน่าสนใจของคำๆนี้ ผู้กำกับนำมาตีความใหม่ จนกลายมาเป็นภาพยนตร์ และเป็นการพบกันครั้งแรกบนแผ่นฟิล์ม ของ 8 ซุปเปอร์สตาร์ ระดับแถวหน้าของเมืองไทยสู่ปรากฎการณ์ความยิ่งใหญ่ของที่สุดแห่งภาพยนตร์ไทยแอ็คชั่นเหนือจินตนาการ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เมื่อมนุษย์หาญกล้าคิดท้าทายขอบเขตแห่งอำนาจของ "โอปปาติกะ" เหล่าสิ่งมีชีวิตผู้มีพลังอำนาจพิเศษเหนือกกว่ามนุษย์ทั่วไป ซึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นหลังประตูแห่งความตายถูกเปิดขึ้นไม่มีใครล่วงรู้ว่าจุดจบแห่งมหาสงครามการนองเลือดเพื่อล้างเผ่าพันธุ์พิเศษที่สืบทอดกันมานานนับศตวรรษจะจบลงที่ใด แต่ไม่ว่าจะเป็นโลกนี้หรือโลกหน้านี่คืออุบัติแห่งความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ นับตั้งแต่วินาทีแรกแห่งการล่า "โอปปาติกะ"ของมนุษย์ได้เริ่มต้นขึ้น!!!






0 comments:

Post a Comment

 
//PART 2